ไรฝุ่น (dust mite)
มีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า Dermatophagoides pteronyssinus Dermatophagoides fariae
เป็นแมลงขนาดเล็ก ไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า เพราะมีความยาวเพียง 250 – 300 ไมครอน มี 8 ขา ไม่มีตา วางไข่คราวละ 20 – 50 ฟอง 3 สัปดาห์/ครั้ง ระยะฟักตัว 8 – 12 วัน แต่ละตัวมีอายุ 2 – 4 เดือน สามารถปะปนอยู่กับฝุ่นตามพื้นบ้าน ห้องนอน ที่นอน หมอน พรม และเครื่องเรือนต่างๆ โดยชอบอาศัยในที่อับชื้น และอบอุ่น ไรฝุ่นกินเศษผิวหนังและรังแคเป็นอาหาร จากนั้นจะถ่ายมูลไว้ในสถานที่ที่อาศัยอยู่ โดยเฉพาะบนเตียง หรือที่นอน ซึ่งเป็นแหล่งสะสมของตัวไรฝุ่นและมูลของไรฝุ่น- ในฝุ่นบ้าน 1 กรัม สามารถพบไรฝุ่นได้ถึง 500 ตัว
- น้ำหนัก 1 ใน 10 ของหมอนเก่าอายุ 6 ปี มาจากไรฝุ่นและมูลของไรฝุ่น
- ในที่นอน 1 หลัง มีไรฝุ่นอาศัยอยู่ประมาณ 2 ล้านตัว
- มูลของไรฝุ่นสามารถฟุ้งกระจายได้ง่ายและลอยเข้าสู่ระบบทางเดินหายใจของเราในขณะนอนหลับ
กำจัดไรฝุ่นอย่างไร ?
ไรฝุ่นสามารถแพร่พันธุ์ในที่อับชื้น การกำจัดไรฝุ่นคือทำความสะอาดพื้นห้อง เตียง หมอน ผ้าปูที่นอน เครื่องเรือน พรม ให้มีฝุ่นน้อยที่สุด โดยผ้าปูที่นอน ปลอกหมอน ผ้าห่ม ควรนำไปซักด้วยน้ำร้อนอุณหภูมิ 60 องศาเซลเซียส นาน 30 นาทีไรฝุ่นเจริญเติบโตได้ดีในพรมที่มีขนพรมหนา รวมทั้งที่นอนและหมอน เนื่องจากมีแหล่งอาหารอุดมสมบูรณ์ในที่นอน คือ เศษหนังกำพร้าของคน โดยมีข้อมูลที่น่าสนใจคือเศษหนังกำพร้าของคน 1 กรัม เป็นอาหารให้ไรฝุ่นหนึ่งล้านตัวมีชีวิตได้นาน 1 สัปดาห์ ตามปกติคนเราจะมีผิวหนังหลุดลอกออกมาถึง 1.5 กรัมต่อวัน ดังนั้น การตัดทอนอาหารของไรฝุ่นจึงเป็นสิ่งที่สำคัญ โดยวิธีที่ดีที่สุดคือ การหุ้มที่นอนและหมอนด้วยพลาสติก ไวนิลหรือผ้าคลุมที่ป้องกันไรฝุ่น ซึ่งผ้าคุณสมบัติพิเศษ คือ ผ้าที่ทอด้วยเส้นด้ายละเอียดและสานกันแน่นมากจนไรฝุ่นและมูลของไรฝุ่นไม่สามารถเล็ดลอดเข้าไป ทำให้ตัวไรฝุ่นขาดอาหารและลดจำนวนลง
วิธีการลดจำนวนไรฝุ่นในบ้าน
- ซักปลอกหมอน และผ้าปูที่นอน 1-2 สัปดาห์ ด้วยน้ำร้อน 55-60 องศาเซลเซียส เพื่อฆ่าไรฝุ่น และใช้ผ้าคลุมที่นอนและหมอนเพื่อกันไรฝุ่น
- มีการระบายอากาศในห้องนอนเพื่อลดความชื้น อย่างน้อยควรเปิดประตูหน้าต่างห้องนอนวันละ 1 ชั่วโมง ดีกว่าปิดห้องไว้ตลอดเวลา
- ใช้เครื่องดูดฝุ่นที่มีคุณภาพดี ถ้าเป็นไปได้ควรใช้เครื่องที่มี HEPA filter ด้วย
- ทำความสะอาดบ้านและห้องนอนด้วยผ้าชุบน้ำหมาดๆ
- ไม่ควรปูพรม ไม่ควรใช้เฟอร์นิเจอร์ที่หุ้มด้วยผ้าและผ้าม่านในห้องนอน
- ไม่ควรเก็บของเล่นจำพวกตุ๊กตาขนนิ่มๆ ในห้องนอน ถ้ามีควรทำความสะอาดด้วยน้ำร้อน 55-60 องศาเซลเซียส หรือแช่แข็งเพื่อฆ่าไรฝุ่น
- ไม่ควรนำสัตว์เลี้ยงเข้าไปในห้องนอน เพราะรังแคจากสัตว์เลี้ยงเป็นอาหารที่ดีของไรฝุ่น
- นำที่นอน หมอน และพรม ตากแดดจัดๆ ประมาณ 3 ชั่วโมงขึ้นไป จะช่วยฆ่าตัวไรฝุ่นได้
- ใช้สเปรย์กำจัดไรฝุ่น เช่นสเปรย์ที่มีอบเชยหรือการบูรเป็นส่วนผสมเพราะจากการวิจัยของ สวทช. พบว่านำมันหอมระเหยที่สกัดจากอบเชยหรือการบูรมีฤทธิ์กำจัดไรฝุ่นได้
วิธีการข้างต้นเป็นวิธีการที่ไม่ยุ่งยากหรือสลับซับซ้อน และเป็นวิธีที่ดีที่สุดสำหรับการป้องกันการเกิดโรคภูมิแพ้จากไรฝุ่น อย่างไรก็ตาม หากเกิดอาการผิดปกติใดๆ ก็อย่านิ่งนอนใจ ควรรีบปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคภูมิแพ้ เพื่อหาทางรักษาได้อย่างทันท่วงที
บทความบางส่วนจาก :
รองศาสตราจารย์นายแพทย์สุวัฒน์ เบญจพลพิทักษ์ คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น